ผ่านกิจกรรม "อุตสาหกรรมรวมใจ : ดูแลสิ่งแวดล้อม 4 ด้าน

 

ดิน : การดูแล เรื่อง กากอุตสาหกรรม การกำกับดูแลโรงงานเพื่อควบคุมการดำเนินการเรื่องกากอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการลักลอบทิ้ง โดยนำหลัก 3R มาช่วยลดปริมาณกาก ให้มีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ นำกากอุตสาหกรรมมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

 

น้ำ : การดูแล เรื่อง แม่น้ำลำคลอง และการดูแลโรงงานในการระบายน้ำออกสู่แม่น้ำลำคลองต้องไม่เกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และไม่ส่งผลกระทบกับชุมชน พร้อมหามาตรการฟื้นฟูแหล่งน้ำลำคลองสาธารณะให้มีสภาพที่ดีขึ้น

 

ลม : การดูแล เรื่อง อากาศ ฝุ่นละออง อ้อยถูกเผา มุ่งเน้นการกำกับ ดูแลการเผาอ้อย ควบคู่การส่งเสริมการตัดอ้อยสด และการระบายมลพิษทางอากาศของโรงงาน เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และลดสารเรือนกระจก

 

ไฟ : การดูแล เรื่อง โรงงานไฟไหม้ การกำกับ ความปลอดภัยต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยตรวจสอบอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ภายในโรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไฟไหม้ รวมถึงมาตรการด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ด้วย

 

นำร่องผ่านโครงการ "อุตสาหกรรมรวมใจ รักษ์น้ำใส ใส่ใจชุมชน" ดูแลลุ่มน้ำคูคลองผ่าน 3 กระบวนการ

 

กระบวนการที่ 1 สำรวจตรวจสอบโรงงานมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างถูกต้อง  มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำลำคลองว่าเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่

 

กระบวนการที่ 2 สำรวจพื้นที่และเก็บตัวอย่างน้ำในคลองในจุดที่มีความเสี่ยง เพื่อตรวจวัด วิเคราะห์คุณภาพน้ำ 

 

กระบวนการที่ 3 ดำเนินการฟื้นฟูสภาพน้ำให้มีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 

- ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องบำบัดน้ำเสีย เครื่องเติมอากาศกังหันน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ มอบถังดักไขมันให้ในชุมชนและสถานประกอบการ

- จัดเก็บผักตบชวาและจัดทำแนวปิดกั้นหรือจุดพักผักตบชวาให้เหมาะสม 

- การขุดลอกคลอง 

- การจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ เพื่อสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาน้ำในคลองให้กับชุมชนที่อยู่อาศัย และประสานความร่วมมือกับ หน่วยงานในพื้นที่ในการขอความร่วมมือดูแลรักษาสภาพน้ำในคลอง 

 

ตั้งเป้าดำเนินการใน 11 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง อยุธยา สระบุรี และปราจีนบุรี และเตรียมการขยายผลต่อไปให้ครอบคลุมในทุกจังหวัดทั่วประเทศในอนาคต  คาดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะทำให้ชุมชน สังคมโดยรอบ เกิดมุมมองที่ดีกับโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตามแนวนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ “อุตสาหกรรมอยู่คู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน”

 

เริ่มดำเนินการนำร่องรอบพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 4 จังหวัด 

 

- คลองบางเสาธง เป็นคลองสายหลักใน จ.สมุทรปราการ ที่มีความสำคัญของอำเภอบางเสาธง ที่ช่วยระบายน้ำทางด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร มีความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร จากด้านเหนือบริเวณวัดบัวโรย เชื่อมต่อกับคลองสำโรง มีลักษณะเป็นคลองธรรมชาติ โดยในช่วงฤดูแล้งน้ำคลองจะแห้ง แต่หน้าน้ำก็จะมีน้ำท่วมมาก บริเวณพื้นสองฝั่งคลองเป็นทุ่งนาโล่ง มีบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นช่วง ๆ และมีความหนาแน่นของชุมชนตั้งแต่ปากคลองด้านใต้ไปจนถึงวัดเสาธงกลาง รวมถึงมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่บริเวณปากคลองจำนวน 15 โรงงาน จึงเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวังการก่อมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม

 

- คลองเปรมประชากร อยู่ใน จ.ปทุมธานี มีระยะทางทั้งหมด 50.8 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 12 เมตร ระยะทางที่ผ่าน จ.ปทุมธานี ประมาณ 20 กิโลเมตร เนื่องด้วยเป็นคลองสายหลักที่ผ่านชุมชนจำนวนมากจึงทำใหญ่เกิดผลกระทบจากการปล่อยน้ำทิ้ง ส่วนการปล่อยน้ำทิ้งจากสถานประกอบการนั้นพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพน้ำโดยรอบชุมชน จึงได้มีการติดตั้งเครื่องเติมอากาศ กังหันน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถานประกอบการในพื้นที่ รวมถึงความร่วมมือร่วมใจของชุมชนโดยรอบ คาดว่าจะช่วยฟื้นฟูคุณภาพน้ำภายในคลองเปรมประชากรโดยตรง และจะช่วยเพิ่มคุณภาพน้ำ แหล่งน้ำผิวดิน (WQI) ในระยะพื้นที่การพัฒนาให้มีค่าดัชนีที่ดีขึ้น

 

- คลองบ้านใหม่ จ.นนทบุรี เป็นคลองกั้นระหว่าง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี มีความยาวประมาณ 3,800 เมตร เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองเปรมประชากร ทั้งนี้การดำเนินโครงการฯ จะช่วยกำกับ ดูแล การระบายน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ พัฒนาฟื้นฟูคุณภาพน้ำในคลองสาขาให้มีคุณภาพดีขึ้น สร้างจิตสำนึกความตระหนักรู้และความเข้าใจในการลดการปล่อยของเสียลงสู่แหล่งน้ำ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ดีระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ อาทิ การขุดลอกกำจัดตะกอนดิน การสร้างฝายน้ำล้น การสร้างความตระหนักรู้ในการลดการปล่อยของเสียลงสู่แหล่งน้ำ 

 

- คลองรางเตย เป็นคลองสาขาใน จ. นครปฐม ที่เชื่อมระหว่างคลองวัดท่าพูด กับคลองอ้อมใหญ่ โดยเริ่มต้นที่คลองวัดพูด (ซึ่งเป็นคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำท่าจีน) ไหลไปบรรจบกับคลองอ้อมใหญ่ ซึ่งมีความกว้างประมาณ 5 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ความยาวประมาณ 2.4 กิโลเมตร ปัจจุบันสภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก ตามเกณฑ์ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น จึงได้ดำเนินการลอกคลองเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยได้รับความร่วมมือทั้งจาก สอจ.นครปฐม หน่วยงานราชการท้องถิ่น ภาคประชาชน และโรงงานอุตสาหกรรมในการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในคลองรางเตย ปัจจุบันคุณภาพน้ำ (WQI) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม และชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ มีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก

 

#กระทรวงอุตสาหกรรม

#MIND

#อุตสาหกรรมรวมใจดูแลสิ่งแวดล้อม

#ดินน้ำลมไฟ